10 ข้อเกี่ยวกับอาชีพสถาปนิก
1.สถาปนิกคืออะไร
สถาปนิก
คือ บุคคลผู้เกี่ยวข้องในการออกแบบ และ วางแผน ในการก่อสร้าง
หรือที่เรียกว่างานสถาปัตยกรรม โดยสถาปนิก
จะเป็นผู้ที่เข้าใจในมาตรฐานการก่อสร้างของอาคาร เข้าใจถึงหน้าที่ใช้สอยของอาคารนั้น
รวมถึงวัสดุที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบของสิ่งก่อสร้างนั้น
สถาปนิกจำเป็นต้องได้รับการศึกษาทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
และได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม ถึงจะสามารถทำงานในวิชาชีพสถาปนิกได้
ซึ่งคล้ายกับการทำงานในสาขาวิชาชีพอื่น
2.สถานที่ทำงาน
ต้องทำงานทั้งในสำนักงาน การออกพื้นที่จริงเพื่อสำรวจสถานที่ทั้งก่อนก่อสร้างและขณะกำลังก่อสร้าง การทำงานอาจทำเป็นช่วงในตลอด 24 ชั่วโมง เมื่องานการก่อสร้างต้องเร่งระยะการทำงานอาจยาวนานแล้วแต่ขนาดของอาคาร สถานที่ เป็นอาชีพที่ไม่มีผลัดการทำงานเพราะสถาปนิกผู้ออกแบบนั้นจะต้องทำหน้าที่รับผิดชอบร่วมกับวิศวกรผู้ทำงานร่วมกัน อาชีพสถาปนิกเป็นอาชีพที่สามารถใช้ความสามารถเฉพาะตัว ในการประกอบอาชีพได้
ทำให้สามารถทำงานส่วนตัว หรือ ทำงานในสำนักงานออกแบบ โดย บัณฑิต
ส่วนใหญ่ที่มีจุดมุ่งหมาย ในการเป็นนักออกแบบ มักนิยม เข้าทำงานในสำนักงานออกแบบ
เพื่อเรียนรู้ระบบการทำงาน และมีความก้าวหน้า ตามประสบการณ์
3.สภาพการทำงาน
สถาปนิกคือบุคคลผู้เกี่ยวข้องในการออกแบบ และ วางแผน ในการก่อสร้าง
หรือที่เรียกว่างานสถาปัตยกรรม โดยสถาปนิก
จะเป็นผู้ที่เข้าใจในมาตรฐานการก่อสร้างของอาคาร เข้าใจถึงหน้าที่ใช้สอยของอาคารนั้น
รวมถึงวัสดุที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบของสิ่งก่อสร้างนั้น
สถาปนิกจำเป็นต้องได้รับการศึกษาทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
และได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม ถึงจะสามารถทำงานในวิชาชีพสถาปนิกได้
ซึ่งคล้ายกับการทำงานในสาขาวิชาชีพอื่น กำหนดระยะเวลาทำงานขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของอาคาร สิ่งก่อสร้าง
ตามที่ผู้จ้างต้องการต้องทำงานให้เสร็จทันเวลาเพราะมีโทษปรับถ้าการก่อสร้างเสร็จไม่ทันตามกำหนดเวลา
4.ประเภทของลูกค้า
1.) ขนาดขององค์กรของเราว่ามีขนาดใหญ่หรือเล็ก
ถ้าขนาดใหญ่ ก็จะได้รับมอบหมายในงานที่ใหญ่ ๆ ลูกค้าก็จะเป็น เจ้าของโรงแรม เจ้าของโรงพยาบาล เจ้าของตึกสำนักงานต่างๆ
ซึ่งบริษัทต้องมีความน่าเชื่อถือมากเพียงพอ
เพราะการทำงานของสถาปนิกคือการออกแบบโครงสร้างภายใน
ซึ่งถ้าไม่มีความน่าเชื่อถือก็จะส่งผลไปถึงความแข็งแรงของสิ่งก่อสร้าง
ซึ่งอาจเกิดอันตรายและความเสียหายตามมา ส่วนบริษัทสถาปนิกองคกรเล็กๆ
งานที่ได้ทำก็จะมีขนาดที่เล็ตามลงมา ลูกค้า
อาจจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังจะเปิดร้าน การออกแบบบ้าน ตึกอาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก
ร้านอาหารเป็นต้น
2.) ลูกค้าเลือกจ้างจากความถนัด
และ สไตล์งานเป็นหลัก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการตัดสินใจเลือก
เพราะถ้าสไตล์งานตรงตามที่ต้องการแล้วนั้น ก็จะสามารถทำงานด้วยกันง่าย
มองเห็นภาพเดียวกัน
3.) ในบางครั้งลูกค้ามาจากการบอกปากต่อปาก
ถ้าการทำงานของเรามีคุณภาพ ลูกค้าติดใจก็จะมีการบอกต่อถึงคุณภาพงาน เพราะฉะนั้นเราควรรักษามาตรฐานของเราเอาไว้ให้ดีอยู่เสมอ
5.เป้าหมายของงาน
/ โจทย์ใหญ่ของงาน /ความท้าทายของงาน
งานสถาปนิกคือ
การออกแบบอาคารประเภทต่างๆให้สวยงาม และสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ
กฎหมาย ประยุกต์ใช้ความรู้ ความสามารถ ทั้งทางศิลปะและเทคนิค
โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและประหยัด
ทั้งในด้านราคาค่าก่อสร้างและพลังงานสนองความต้องการของผู้อาศัย และผู้ใช้อาคาร สถาปนิกจะเป็นผู้ออกแบบ
ต้องทำงานตามขั้นตอนและกำหนดเวลาชิ้นผลงานต่างๆ ร่วมกับวิศวกรก่อสร้างและนักเขียนแบบ ซึ่งงานทุกงานที่ได้รับมีความท้าทายและโจทย์ที่ต้องแก้ไขแตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับว่างานนั้นจะเป็นอะไร
เป้าหมายคือทำงานชิ้นนั้นให้สำเร็จลุล่วงตั้งแต่ขั้นตอนแรกยันขั้นตอนสุดท้ายที่เรารับผิดชอบ
6.Work process
ขั้นตอนการให้บริการวิชาชีพของสถาปนิก
โดยสถาปนิกจะทำการบริการวิชาชีพตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.
)
บันทึกรายละเอียดความต้องการของลูกค้า เพื่อออกแบบให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
2.
)
ออกแบบเบื้องต้น (Schematic Design) ออกแบบ คำนวณแบบ เลือกวัสดุที่มีคุณภาพเหมาะสมและให้ประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า
3.
)
ออกแบบรายละเอียด (Design Development หรือ DD)
4.
)
คำนวณรายการใช้จ่ายให้เหมาะสมกับเนื้องาน
5.
) ทำแบบก่อสร้าง (Construction Document) เตรียมแบบ และส่งแบบที่วาดโดยช่างเขียนแบบให้ลูกค้าพิจารณา เพื่อดัดแปลงแก้ไขและตอบข้อซักถามของลูกค้าร่วมกับวิศวกร
6.
)
เมื่อแก้ไขดัดแปลงให้สมบูรณ์แล้ว จึงส่งแบบให้กับวิศวกรทำการก่อสร้าง.
7.
)
ออกปฏิบัติงานร่วมกับวิศวกรระหว่างทำการก่อสร้าง เพื่อให้ใช้วัสดุตามแบบที่วางไว้ตามเงื่อนไขสัญญา
8.
)ให้คำปรึกษาต่อวิศวกรและแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้างและการคำนวณของวิศวกร
9.
)การประมูลและเจรจาต่อรอง (Bidding and Negotiation)
10.
) บริหารงานก่อสร้าง (Construction Administration) อาจวางแผนและควบคุมงานที่สถาปนิกจะได้รับทำเป็นประจำตลอดปี คือ งานปรับปรุง ดัดแปลง แก้ไข ตัวอาคารเพื่อความทันสมัยสวยงามและปลอดภัยอยู่เสมอสถาปนิกอาจมีความชำนาญในอาคารบางชนิดเป็นพิเศษ เช่น การออกแบบการใช้อาคารในพื้นที่แคบ เป็นต้น
7.ความก้าวหน้าของสายอาชีพ
อนาคตความก้าวหน้าของคนที่ประกอบอาชีพนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และ
ความชำนาญในงานเป็นสำคัญโดยมีหลักประกันอยู่ที่ฝีมือและผลงาน ผู้ที่ทำงานใน
ภาครัฐจะได้รับการเลื่อนขั้นตามความสามารถถ้าได้รับการศึกษาต่อหรืออบรมหลักสูตรต่างๆเพิ่มเติมอาจได้เป็นผู้อำนวยการของหน่วยเองที่สังกัดอยู่
ในภาคเอกชน อาจได้เป็นผู้จัดการหรือผู้ดูแลโครงการก่อสร้างหรือเป็นเจ้าของกิจการก็ได้
8. บุคลิก
นิสัยของคนที่เหมาะจะทำอาชีพนี้
สถาปนิกเป็นอีกอาชีพที่ต้องมีความรับผิดชอบสูงมาก
ในชีวิตจริงมันไม่ได้สวยงามอย่างในละคร
คนกลุ่มนี้ไม่ได้แค่มีหน้าที่ออกแบบอาคารคุมงานก่อสร้างให้ได้ดังที่ลูกค้าต้องการ
แต่สิ่งที่เราออกแบบไปนั้นคือความรับผิดชอบของเรา
หากมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นในอนาคตคนที่จะโดนฟ้องคนแรกก็คือสถาปนิกนี่แหละ ดังนั้น
นอกจากความคิดสร้างสรรค์ ทักษะพื้นฐานทางสถาปัตยกรรม ความรอบคอบ และความรับผิดชอบ
ถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมาก
9. ผลตอบแทน
สถาปนิกที่รับราชการจะได้รับเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา สถาปนิกที่ทำงานกับภาคเอกชนจะได้รับเงินเดือนขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์
ได้รับสวัสดิการตามกฎหมายแรงงานกำหนดไว้ และสิทธิประโยชน์อื่น เช่น โบนัสขึ้นอยู่กับผลประกอบการ และ รายได้ของสถาปนิกมักจะขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ตำแหน่งของสถาปนิกที่ทำงานใน
สำนักงานสถาปนิก หรือ องค์กรที่มีฝ่ายสถาปัตยกรรม มีดังนี้
· ผู้ช่วยสถาปนิก
: Architect Assistant
· สถาปนิก
ผู้น้อย : Junior Architect
· สถาปนิก : Architect
· สถาปนิก อาวุโส
: Senior Architect
10.คุณค่าของอาชีพนี้ต่อคนรอบข้างและสังคม
"สุข"
ในสัมมาอาชีพของเรา คือ การให้บริการวางแผน-ออกแบบที่ " SO OK
" ซึ่งในวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมสาขาต่างๆ ตั้งแต่
การวางแผนเมืองและสภาพแวดล้อม การอนุรักษ์ชุมชนและสถาปัตยกรรม การออกแบบชุมชนเมือง
(สถาปัตยกรรมผังเมือง) สถาปัตยกรรมหลัก ภูมิสถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมภายในและการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งรวมทุกอย่างที่จำเป็นในสังคมเอาไว้
หากขาดอาชีพสถาปนิกไปโครงสร้างของเมือง หรือ ประเทศอาจจะยุ่งเหยิงน่าดู
เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นอาชีพที่สำคัญและขาดไม่ได้
และน้องๆที่เลือกที่จะมาเรียนแล้วต้องตั้งใจเรียนให้มาก และ นำความรู้ที่เราเรียนมา
มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป
ข้อแถม ทักษะ ความรู้ ความสามารถ
สถาปัตยกรรมศาสตร์
เป็นการศึกษาสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานเทคนิควิทยาการทั้งทางวิทยาศาสตร์ ศิลปะ
และวัฒนธรรม เข้าด้วยกัน เพื่อตอบสนองความต้องการในการดำรงชีวิตของมนุษย์
ในด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่อาศัย วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่นั้น
สนองตอบในเชิงจิตวิทยา ซึ่งผู้ออกแบบต้องเข้าใจความต้องการในการใช้พื้นที่นั้น ๆ
อย่างลึกซึ้งอันมีผลกับการออกแบบที่ดี และไม่ดี
หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นศิลปวิทยาการ ในการออกแบบอาคารและสิ่งเกี่ยวเนื่อง เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมทางกายภาพให้เหมาะสมในการดำรงชีวิตของมนุษย์
โดยครอบคลุมตั้งแต่ระดับมหัพภาค ถึงจุลภาค เช่น การวางผังชุมชน การออกแบบชุมชน
ภูมิสถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมศาสตร์เป็นสาขาวิชาที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ในหลายด้าน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปแบบศิลปะ เรื่องของชุมชน เรื่องของพฤติกรรมมนุษย์
และเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย
ถือเป็นศาสตร์ที่มีศาสตร์อื่นมาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จนยากที่จะสรุปลงไปได้ว่ามี
ศาสตร์สาขาใดมาเกี่ยวข้องบ้าง
ที่มา : http://www.a-chieve.org/information/detail/10140
ที่มา : http://www.a-chieve.org/information/detail/10140
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น